กว่าจะทำอะไรสำเร็จ เป็นชิ้นเป็นอัน
มักจะเสียน้ำตาก่อนเสมอ
———————————————————————–
บันทึกการย้ายถิ่นฐาน 10 วัน – ถึงที่พักที่ 1
บันทึกการย้ายถิ่นฐาน 10 วัน – ถึงที่พักที่ 1 # 2
บันทึกการย้ายถิ่นฐาน 10 วัน – ถึงที่พักที่ 1 # 3 เรียนล่าม
———————————————————————–
เช้านี้ เราเดินทางไปเรียนคอร์สล่ามที่ BTS ราชเทวี กับอาจารย์ก้อย
โดยเราซื้อคอร์สนี้จากใน Facebook Fanpage : Japanese in Mind
ในราคา 1,500 บาท
เราไปถึงก่อนเวลา 1 ชั่วโมง ก็เลยนั่งหาซื้ออะไรกินใน 7-11
จากนั้นพอประมาณ 08:45 นาที เราก็เข้าไปในตัวอาคารเอเชีย ชั้นที่ 12
ที่นั่นจะมีคาเฟ่ที่เปิดให้เป็นห้องเช่า ติวทำกิจกรรมอยู่ค่ะ
นักเรียนทั้งหมด 14 คน ทุกคนเป็นล่ามแล้วทั้งนั้น มีเราที่ยังเรียนไม่จบ
ในชั่วโมงแรกจะเป็นการแนะนำตัวทุกคนก่อนค่ะ ว่าทำอะไรที่ไหน จบจากไหน
งานนี้เจอคณะศึกษาศาสตร์ ภาษาญี่ปุ่น ของ ม.บูรพา ด้วยค่ะ
หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่บทเรียน
บทเรียนแรกจะกล่าวถึงความสำคัญของล่าม ล่ามสำคัญฉะไหน ล่ามมีกี่ประเภท
ล่ามควรเตรียมใจ เตรียมตัว เตรียมอะไรบ้าง ข้อห้ามสำหรับล่าม สิ่งที่ล่ามพึงมี พึงปฏิบัติ
โดยระหว่างคลาส เราจะพักทุก ๆ 1 ชั่วโมงครึ่ง ระหว่างที่กำลังเรียน ก็จะมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ล่ามระหว่างพี่ ๆ ล่ามด้วยกัน แต่ละคนโปรไฟล์ดีมากค่ะ ทั้งเรียนภาษาญี่ปุ่นเอง เรียนจนได้ทุนไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่น
มีการให้อ่านตัวเลข ซึ่งมีตั้งแต่หลักร้อย ไปจนถึงหลักล้านล้าน (兆)
คือไม่อยากจะเม้าท์ว่า อิที่ยากที่สุดก็อ่านตัวเลขนี่แหละค่ะ คืออะไรอ่ะ เขียนก็ยากแล้ว ยังจะต้องมานั่งแยกอีกว่า ชั้นควรจะอ่านเป็นเท่าไร ยากมาก แต่ก็ได้เทคนิคจากอาจารย์ก้อยด้วยค่ะ
หลังจากเสร็จภาคเช้า เราก็พักทานข้าวเที่ยง
กลับมาเรียนต่อ คราวนี้เข้าสู่ศัพท์ล่าม โดยอาจารย์จะมีเอกสารให้ค่ะ เป็นลิสคำศัพท์ล่ามแผนกต่าง ๆ เช่น บัญชี, ก่อสร้าง, เลขา เป็นต้น โดยมีทั้งต้นฉบับของคำศัพท์ และแบบฝึกหัด
ถามว่างานนี้เรารอดมั้ย
บอกตรง ๆ ถ้าไม่ท่องดัชนีคำศัพท์ N1 อยู่คือตายอย่างเขียดค่ะ แต่ขนาดท่องก็ยังตายอ่ะ ศัพท์อะไรไม่รู้ เยอะแยะ อยากจิคราย แต่พี่ ๆ ล่ามท่านอื่นคลุกคลีกับศัพท์พวกนี้อยู่แล้ว ก็นั่งมอง ๆ พี่เขาเขียนค่ะ ส่วนไคโนะ ส่วนมากจะเป็น คำอ่านไม่รู้จัก รู้จักแต่ความหมาย เพราะเดาความหมายเอาจากตัวอักษรคันจิ
ถามว่าเดาความหมายถูกมั้ย ก็ถูกนะ แต่มันทำให้ไคโนะล่ามไม่ได้ เพราะการล่าม คือการพูดออกมา ทุกครั้งเวลาที่ไคโนะได้ล่ามเล็ก ๆ น้อย ๆ คือ ตัวอักษรคันจิจะผุดขึ้นในหัว แต่พูดออกมาไม่ได้ เพราะไม่รู้เสียงอ่าน… (นี่คือข้อเสียของการอ่านหนังสือ เพื่อสอบ JLPT ค่ะ)
ในชั่วโมงสุดท้าย จะเป็นการเผยแพร่งานวิจัย เรื่องมุมมองของคนญี่ปุ่นที่มีต่อคนไทยตอนที่ทำงานร่วมกัน จุดนี้ได้ความรู้เกี่ยวกับการเอาชีวิตรอดในอาชีพล่ามมากค่ะ นอกจากนั้นก็จะมีการแนะนำคำศัพท์แสลง ที่อาจจะเจอเมื่อทำงานล่าม มีพี่ล่ามพูดประสบการณ์ล่ามให้เราฟัง ทุกคนจะแชร์กัน ก็เจอคล้าย ๆ กันหมดเลยค่ะ เราก็เก็บข้อมูลไป ^^
สุดท้าย จบคลาส ก็ถ่ายรูปรวมค่ะ

หลังจากพูดขอบคุณอาจารย์ก้อยและพี่ ๆ ล่ามแล้ว เราก็ย้ายตัวเองไปที่ Terminal21 เพราะมีนัดทานข้าวกับเพื่อนที่นั่น เราไม่ได้เจอกันตั้งแต่ปี 2013 ตั้งแต่ที่เรามาสอบทุนรัฐบาลญี่ปุ่นรอบแรก เรานัดเจอกันกับเพื่อนที่หน้า STARBUCKS เพื่อนเราก็ยังคงตัดผมสั้นเหมือนเดิม ทรงผมเพื่อนไม่เปลี่ยนเลย
พอเจอกันแล้ว ก็ย้ายกันไปเดินหาที่ทานข้าว นั่งเม้าท์กัน และจบกันที่ร้าน PEPPER LUNCH
ก็อร่อยดีนะ ชอบ ระหว่างที่ทานเพื่อนก็ถ่ายภาพให้

พอกินเสร็จ เราก็เดินย่อยกันต่อ ถ่ายภาพมาเยอะเลย … มีเดินไปทักทายพี่หวังอยู่ Itsskin ด้วย… ก็สอยมาส์คหน้ามา 3 แผ่น หมดไป 200 บาท… อยากจิคราย T____T
นี่เป็นภาพที่เราถ่ายมา และเราชอบมาก

อยู่ด้วยกันประมาณ 3 ชั่วโมง…
จากนั้นก็บอกลา
เพื่อนก็บอกว่าเธอจะต้องเป็นล่ามได้ เป็นล่ามได้…
อืม… ฉันจะต้องล่ามให้ได้ ฉันจะต้องเป็นล่ามที่ฉันอยากจะเป็นให้ได้!!!
ถามว่าการที่เราเป็นแบบนี้เราท้อไหม… ก็ท้อนะ…ท้อมากด้วย เพื่อนเราแต่ละคนมีที่ไปที่มั่นคงแล้วทั้งนั้น เหลือเรานี่แหละ… แต่ไม่เป็นไรหรอก … เราจะต้องอดทน และพยายาม… แรงบรรดาลใจ กำลังใจ หาได้ทุกที่เสมอ…
