สารบัญ
เมื่อฉันสอบทุนรัฐบาลญี่ปุ่นครั้งที่ 3 : เริ่มแรก
… … … … … … … … … … … … … … … … … … … … … … … … … … …
ก็ไม่รู้สินะ แต่ก็…เขียนเรียงความแล้ว มารับเอกสารที่จะต้องใช้ในการส่งใบสมัคร… นี่เป็นครั้งที่ 3
ครั้งแรก ไม่ผ่านข้อเขียน
ครั้งที่ 2 ผ่านฝั่งประเทศไทย แต่ไม่ผ่านฝั่งประเทศญี่ปุ่น
ครั้งที่ 3…….
ครั้งที่ 3 นี่จะเป็นยังไงกันนะ หลายคนที่รู้ว่าฉันจะสอบอีกครั้ง ก็แบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งแรก บอกว่าให้เรียนให้จบเธอ ระบบปกติก็เรียนมากกว่าชาวบ้านอยู่แล้ว (5 ปี) ไปญี่ปุ่นมาแล้ว 1 ปี ตอนนี้ก็เรียน 6 ปีจบ เท่าแพทย์แล้ว ถ้าเกิดได้ทุนรัฐบาลญี่ปุ่นรอบนี้ ก็จะกลายเป็นเรียน ป.ตรี 7 ปีจบ มันมากเกินไปแล้ว
กับอีกฝั่งที่บอกว่า ไปเถอะ ชีวิตนี้มีโอกาสก็ไป…7 ปีจบแล้วไง….
ถ้ามองโลกสวย 7 ปีจบไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้ามองแง่ความเป็นจริง 7 ปีจบมีปัญหาแน่ ๆ ปกติ 5 ปีจบคนที่บ้านก็คิดว่าสอบตก 1 ปีอยู่แล้ว… ทางบ้านเราไม่ได้มีกำลังเงินซัพพอร์ตมากพอที่จะเที่ยวเรียนให้มันครบขีดจำกัดหรอกนะ (แต่ละคณะ มีโอกาสเรียนมากที่สุดเท่ากับจำนวนปีที่เรียนระบบปกติคูณ 2) อายุเราก็มากขึ้นเรื่อย ๆ การหางานในอนาคตจะยิ่งยากขึ้น เพราะเด็ก ๆ จบใหม่จะไฟแรงกว่าเรา เริ่มงานช้า ฐานเงินเดือนจะช้า แก่ตัวไปจะเป็นปัญหา อีกอย่าง แต่ให้ความสามารถมีเยอะมาก แต่หลายบริษัทอาจจะไม่อยากจะรับ เพราะกลัวว่าจะเรียกเงินเดือนสูง (ซึ่งเราว่าเราเรียกให้มันเหมาะกับความรู้เราแน่ ๆ) จ้างเด็กจบใหม่ หรือเด็กที่ไม่เคยไปญี่ปุ่นตั้ง 2 รอบน่าจะดีกว่า….
ทำไมโลกแห่งความเป็นจริง กับโลกที่เราคาดหวังมันถึงไปด้วยกันไม่ได้นะ….
แต่ยังไงก็ตาม ครั้งนี้ เมื่อมีโอกาส ฉันจะลองสมัครดู…
จริง ๆ เราก็ตกเงื่อนไขแล้วล่ะ เราไม่ใช่เด็กปี 2 หรือปี 3 ตอนนี้เราเด็กปี 4
ถ้าเอกสารมันจะตก เราก็โอเค ให้มันตกเพราะเราไม่ผ่านเงื่อนไข เรายังโอเคเสียกว่า การไม่ลองดู แล้วปล่อยให้มันผ่านไป
อีกอย่าง รอบนี้ถ้าผ่านข้อเขียนอีก อย่างน้อยก็ช่วยยืนยันได้ว่า ที่ผ่านข้อเขียนในครั้งที่ 2 นั้น ไม่น่าจะบังเอิญ แต่ถ้ารอบนี้ไม่ผ่านข้อเขียน ที่ผ่านข้อเขียนในครั้งที่ 2 อาจจะเป็นโชคช่วยก็ได้….
บางครั้ง ชีวิตก็ไม่ได้มีตัวเลือกมากนักหรอก